รักษาฝ้าด้วยตนเองได้หรือไม่? คงเป็นคำถามที่หลายคนอาจสงสัยกันอยู่ไม่น้อย เพราะร่องรอยสีดำหรือสีน้ำตาลที่เป็นปื้นเด่นชัดอยู่บนผิวหน้าอย่าง “ฝ้า” เป็นปัญหาผิวที่แม้จะไม่ส่งผลอันตราย แต่ก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ หากเรารู้ต้นตอสาเหตุของการเกิดฝ้า ก็จะสามารถเลือกวิธีรักษาฝ้าได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นฝ้าอีกครั้งได้
ฝ้าคืออะไร?
ก่อนจะไปดูว่า รักษาฝ้าด้วยตัวเองได้อย่างไรบ้าง คุณจำเป็นต้องรู้จักกับฝ้าและสาเหตุการเกิดเสียก่อน โดยฝ้า (Melasma) คือ ลักษณะของสีผิวที่คล้ำเป็นปื้น ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงสีดำ เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ที่เรียกว่า เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ในผิวหนังทำงานมากกว่าปกติ จึงผลิตเม็ดสีออกมามากขึ้น
ฝ้ามักพบได้ในบริเวณที่ร่างกายสัมผัสแสงแดดโดยตรง เช่น ฝ้าตรงโหนกแก้ม, หน้าผาก, จมูก, เหนือริมฝีปาก, คาง เป็นต้น ส่วนใหญ่พบในวัยกลางคน โดยมักเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยฝ้ามีสาเหตุการเกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้
- แสงแดด ทั้งรังสียูวี (UV) จากแสงแดด รวมถึงแสงสีฟ้า (Blue Light) จากแสงหลอดไฟหรือแสงจากโทรศัพท์มือถือ
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทั้งจากการรับประทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ และการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
- พันธุกรรม หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นฝ้า อาจส่งผลให้บุตรหลานเป็นฝ้าได้มากถึง 30-50% ทั้งยังมีโอกาสกลับมาเป็นฝ้าซ้ำได้บ่อยครั้ง
- การใช้เครื่องสำอางบางชนิด ที่มีส่วนผสมของสารกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น สารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ที่มีฤทธิ์ทำให้เม็ดสีเมลานินจางลง
เมื่อการเกิดฝ้ามีสาเหตุจากหลายปัจจัย ฝ้าจึงแบ่งออกเป็นหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ฝ้าตื้น, ฝ้าลึก, ฝ้าแดด, ฝ้าเลือด, ฝ้าฮอร์โมน หรือฝ้าสเตียรอยด์ ซึ่งมีลักษณะและรูปแบบการเกิดที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากต้องการรักษาฝ้าด้วยตัวเอง จะต้องเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับประเภทของฝ้าและสภาพผิวของตนเองด้วย
เทคนิคป้องกันฝ้า และเคล็ดลับรักษาฝ้าด้วยตัวเอง
รักษาฝ้าด้วยตัวเองได้อย่างไรบ้าง? แท้จริงแล้วฝ้าไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทั้งยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำเมื่อหยุดรักษา ดังนั้น การรักษาฝ้าจำเป็นต้องทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีรักษาฝ้าอยู่ อาจใช้เคล็ดลับรักษาฝ้าด้วยตัวเองที่ Romrawin Cosmetics นำมาฝากดังต่อไปนี้ได้
รักษาฝ้าด้วยตัวเองด้วยการใช้สกินแคร์บำรุงผิวหน้า
การรักษาฝ้าด้วยตัวเองที่สะดวกและง่ายสำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปพบแพทย์ คือ การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและช่วยให้ฝ้าดูจางลง โดยคุณอาจเลือกใช้ครีมทาฝ้าอย่าง Intensive Serum และ Absolute Light Cream จาก Romrawin Cosmetics ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยลบเลือนให้ฝ้าและจุดด่างดำดูจางลง พร้อมปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น
ทำความสะอาดหน้าอย่างถูกวิธี
อีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้าด้วยตัวเองให้ได้ผลดีคือ การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี โดยการทำความสะอาดหน้าด้วยคลีนเซอร์ จากนั้นเตรียมผิวด้วยโทนเนอร์เพื่อผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวสามารถรับสารสำคัญจากสกินแคร์ต่าง ๆ เพื่อบรรเทาอาการฝ้าให้จางลงได้ดีขึ้น
พักผ่อนให้เพียงพอ และผ่อนคลายความเครียด
การพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงความเครียด เป็นวิธีรักษาฝ้าด้วยตัวเองที่ช่วยป้องกันการเกิดฝ้าได้ เพราะหากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงเกิดความเครียดบ่อย ๆ จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานไม่คงที่ ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ จนเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำตามมาได้
ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้าด้วยตัวเองที่จะช่วยป้องกันการเกิดฝ้าได้ง่าย ๆ และสะดวกมาก คือ การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีสารป้องกันทั้ง UVA/UVB รวมถึงมีค่า SPF 30 ขึ้นไป และค่า PA มากกว่า 2+ เพื่อป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดและแสงสีฟ้าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า และเป็นเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงมากขึ้น
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้มาก ๆ
นอกจากการรักษาฝ้าด้วยตัวเองโดยการดูแลผิวหน้าภายนอกแล้ว หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า เราสามารถกินอะไรช่วยลดฝ้า กระได้บ้าง? การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี, มะเขือเทศ, ส้ม รวมถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ลดการเกิดริ้วรอย ทั้งยังช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส ดูสุขภาพดี
ใช้สมุนไพรธรรมชาติ ช่วยลบเลือนฝ้าด้วยตนเอง
สำหรับใครที่ต้องการรักษาฝ้าด้วยตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติที่ราคาประหยัด มีผลข้างเคียงน้อยแต่ได้ผลดี สามารถใช้สมุนไพรรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้เช่นกัน โดยเลือกใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น มะนาว, มะขามเปียก, ขมิ้น, หอมแดง เป็นต้น ทั้งนี้การรักษาด้วยการใช้สมุนไพรดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิวได้ ดังนั้นจึงควรใช้อย่างระมัดระวัง
วิธีรักษาฝ้าด้วยหัตถการทางการแพทย์
การรักษาฝ้าด้วยตัวเองดังที่ได้กล่าวไปนั้น เป็นวิธีที่ช่วยให้ฝ้าดูจางลงได้ แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาและความอดทนในการดูแลตนเอง เพื่อให้เห็นผลชัดเจน หากใครกำลังมองหาสูตรรักษาฝ้าเร่งด่วน การทำหัตถการทางการแพทย์เพื่อรักษาฝ้าก็เป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยคุณได้ ดังนี้
รักษาฝ้าด้วยตัวเองด้วยการใช้ยารักษาฝ้า
การใช้ยารักษาฝ้าก็เป็นวิธีรักษาฝ้า กระด้วยตัวเอง ซึ่งมีทั้งรูปแบบยาทาและยารับประทาน โดยยาทาฝ้าส่วนใหญ่มีฤทธิ์ช่วยลดการสร้างเม็ดสี เร่งการผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ส่วนยารับประทานจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทั้งนี้ ยาแต่ละประเภทก็เหมาะกับการรักษาฝ้าต่างชนิดกัน การใช้ยาจึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น
รักษาฝ้าด้วยการทำเลเซอร์
การทำเลเซอร์เพื่อรักษาฝ้า เป็นวิธีที่สามารถกำจัดเม็ดสีได้อย่างตรงจุด ทำให้ฝ้าดูจางลง ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้ด้วย ทั้งนี้ การทำเลเซอร์ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังผู้มีประสบการณ์ อีกทั้งหลังการรักษาอาจมีผลข้างเคียงทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่อาจทำให้ฝ้าเข้มขึ้นได้
รักษาฝ้าด้วยการทำ IPL
การรักษาฝ้าด้วยการทำ IPL (Intense Pulsed Light) เป็นการใช้แสงพลังงานต่ำยิงไปที่ผิวบริเวณที่เป็นฝ้า ให้ความร้อนเข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ฝ้าค่อย ๆ จางลง ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น แม้ว่าจะเป็นวิธีรักษาฝ้าที่อ่อนโยน แต่หลังการรักษาควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะอาจทำให้ฝ้าเข้มขึ้นได้ ทั้งนี้ การรักษาด้วยการทำ IPL ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งจึงจะเห็นผล จึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่พอสมควร
สรุป รักษาฝ้าด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี
ฝ้าเป็นปัญหาผิวหน้าที่สามารถจัดการได้ หากเลือกการรักษาที่ถูกวิธีและเหมาะสมกับฝ้าแต่ละประเภท โดยคุณสามารถรักษาฝ้าด้วยตัวเองหรือรักษาฝ้าด้วยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อบรรเทาอาการฝ้าให้จางลงได้ ทั้งนี้ ฝ้าเป็นปัญหาผิวที่อาจกลับมาเป็นซ้ำเมื่อหยุดรักษา ดังนั้น การรักษาฝ้าควรทำอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ และควรรักษาร่วมกันหลายวิธี เพื่อชะลอการเกิดฝ้า เผยผิวสุขภาพผิวดีในแบบที่คุณเป็น
สำหรับใครที่มองหาตัวช่วยรักษาฝ้าด้วยตัวเอง ขอแนะนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจาก Romrawin Cosmetics อย่าง Intensive Serum เซรั่มสูตรเข้มข้น ที่มีส่วนผสมของ PHA และ Vitamin B3 ตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด ให้ผิวกลับมากระจ่างใส ฝ้าและจุดด่างดำดูจางลง และ Absolute Light Cream ครีมทาฝ้าที่อุดมไปด้วยสารสกัด AIpha-Arbutin, Kojic Acid และ Licorice Extract ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ช่วยลบเลือนฝ้าและจุดด่างดำให้ดูจางลง พร้อมเพิ่มความกระจ่างใสให้แก่ผิว