รักษาฝ้าและดูแลผิวหน้าอย่างไร ให้หมดปัญหาผิวหมองคล้ำ

รักษาฝ้า

สภาพอากาศร้อนในปัจจุบันไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายของเรารู้สึกไม่สบายตัว แต่นั่นยังอาจส่งผลให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนผิวหน้าของเราได้ ซึ่งการรักษาฝ้าอย่างไรให้ถูกวิธีนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการดูแลผิวหน้า เพื่อให้เรามั่นใจและพร้อมออกไปใช้ชีวิตอย่างไร้ความกังวล

เพราะปัญหาฝ้าเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคน โดยเกิดขึ้นจากเซลล์เม็ดสีเมลานินใต้ชั้นผิวหนัง ทำงานผิดปกติ ถ้าเราไม่หาวิธีรักษาฝ้าหรือหาทางป้องกันฝ้าอย่างถูกวิธี ฝ้าที่เป็นรอยสีน้ำตาลเข้มจะเริ่มขยายเป็นปื้นฝังลึกลงไปในเซลล์ผิว แต่ด้วยปัจจุบันที่การรักษาผิวให้ดูจางลงนั้นมีด้วยกันหลายวิธี รวมถึงการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่ดีจะเป็นการลดโอกาสในการเกิดฝ้าได้อีกด้วย โดยวิธีการรักษาฝ้าให้ดูจางลงนั้นต้องอาศัยการดูแลผิวหน้าระยะยาวเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง

สารบัญบทความ

ฝ้าคืออะไร?

แก้ฝ้า

ฝ้า (Melasma) คือ อาการที่เกิดขึ้นทางผิวหนังที่มีลักษณะเป็นรอยด่างหรือรอยปื้นสีน้ำตาล ฝ้าส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการสร้างเซลล์สร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ในผิวหนังเมื่อเผชิญกับแสงแดดอย่างแสงรังสียูวี (UV) ที่มีความสามารถทะลวงเข้าไปทำลายเซลล์ชั้นผิวหน้าของเราได้ ซึ่งรังสียูวีที่ส่งผลกระทบต่อใบหน้าของเราจะนับรวมแสงสีฟ้า หรือ HEVIS (High Energy Visible Light) ที่เป็นแหล่งกำเนิดของแสงหลอดไฟ หรือแสงจากโทรศัพท์มือถืออีกด้วย

นอกจากนี้ ฝ้ายังสามารถเกิดจากผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเอสโตรเจน (Estrogen) กับโปรเจสเตอโรน (Progesterone) และผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือผู้ที่ตั้งครรภ์อีกด้วย รวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้าได้เช่นกัน ซึ่งปกติแล้วผู้ที่ต้องการรักษาฝ้ามักพบปัญหาฝ้าในบริเวณที่ร่างกายสัมผัสแสงแดดโดยตรง เช่น หน้าผาก, จมูก, กราม และแก้ม โดยคนส่วนใหญ่มักมีปัญหาฝ้าเมื่ออายุ 30-40 ปี 

ทั้งนี้ ก่อนที่จะหาวิธีรักษาฝ้าควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะรอยดำที่เกิดขึ้นบนใบหน้านั้นอาจจะเป็นฝ้าในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น ฝ้าแดด, ฝ้าเลือด, ฝ้าฮอร์โมน หรือฝ้าสเตียรอยด์ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีวิธีรักษาฝ้าที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ในการหาสาเหตุของฝ้าที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้รับวิธีการรักษาฝ้าที่เหมาะกับตัวคุณเองที่สุด

รักษาฝ้าอย่างไร เพื่อป้องกันโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ

วิธีรักษาฝ้า กระ

แม้ว่าฝ้าบางชนิดอาจสังเกตเห็นได้ยากได้ด้วยตาเปล่า แต่ฝ้าบางชนิดที่มีรอยดำชัดเจนก็อาจจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับเราได้เช่นกัน การรักษาฝ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องใส่ใจ เพราะฝ้าอาจมีโอกาสกลับมาเกิดซ้ำได้ในอนาคต ดังนั้นการรักษาฝ้าจึงต้องทำอย่างเหมาะสม โดยวิธีรักษาฝ้าที่เห็นผล มีดังนี้

รักษาฝ้าด้วยยา

การรักษาฝ้าด้วยยามีทั้งรูปแบบยาทาและยารับประทาน ซึ่งแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังจะเป็นผู้วินิจฉัยและจ่ายยาให้กับเรา โดยยาทาฝ้าที่ใช้รักษาฝ้าจะมีส่วนผสมในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ที่เป็นตัวการในการสร้างเม็ดสีเมลานิน เช่น สารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) หรือยาสเตียรอยด์สำหรับใช้ภายนอกที่มีความแรงปานกลาง นอกจากนี้ แพทย์อาจจะมีการจ่ายยาเมไทมาโซล (Methimazole) แบบรับประทานควบคู่ไปกับยาชนิดทาให้กับผู้ป่วยบางราย

รักษาฝ้าด้วยการใช้สกินแคร์

การรักษาฝ้าด้วยการใช้สกินแคร์เป็นทางเลือกที่ดีในการรักษาฝ้า เพราะวิธีการรักษานี้คุณสามารถรักษาฝ้าได้ด้วยตัวเอง สำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปพบแพทย์ การเลือกสกินแคร์ที่ช่วยรักษาฝ้าเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำดูจางลงอีกด้วย เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์จาก Romrawin Cosmetics ที่ช่วยลดปัญหาจุดด่างดำ และรอยหมองคล้ำของผิวให้สีผิวสม่ำเสมอด้วยครีมทาฝ้า Absolute Light Cream และ Intensive Serum เซรั่มที่จะช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดให้กลับมากระจ่างใสขึ้น เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่เหมาะกับการรักษาฝ้าแดดเป็นอย่างมาก

รักษาฝ้าด้วยการทำเลเซอร์

การรักษาฝ้าด้วยการทำเลเซอร์เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาฝ้าลึกที่เห็นผล ซึ่งการรักษาฝ้าด้วยการทำเลเซอร์นั้นจะทำให้เข้าไปจัดการกับรอยดำหรือรอยปื้นจากฝ้าในใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ฝ้ามีสีจางลง สีผิวที่ดูหมองคล้ำกระจ่างใสมากขึ้น ซึ่งการเลเซอร์ฝ้านั้นควรอยู่ภายใต้ความดูแลของผู้มีประสบการณ์ เนื่องจากการทำเลเซอร์นั้นต้องอาศัยความละเอียดและแม่นยำ รวมถึงหลังการรักษาฝ้า คุณต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดฝ้าร่วมด้วย เช่น เลี่ยงการโดนแสงแดดหรือเลี่ยงการใช้ยาคุมกำเนิด เป็นต้น

รักษาฝ้าด้วยการทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

การรักษาฝ้าด้วยทาครีมกันแดด เป็นวิธีรักษาฝ้าด้วยตัวเองที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ด้วยการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุกวันแม้ว่าจะอยู่ในที่ร่ม เนื่องจากรังสียูวีจากแสงแดดและแสงสีฟ้าเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า คุณจึงต้องเลือกครีมกันแดดที่มีการป้องกันทั้ง UVA/UVB และมีค่า SPF มากกว่า 30 ขึ้นไป รวมถึงต้องมีค่า PA มากกว่า 2+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันแสงแดดและเป็นเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงมากขึ้น

รักษาฝ้าด้วยการผลัดเซลล์ผิว 

การรักษาฝ้าได้ด้วยตัวเองอีกวิธีหนึ่งคือการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งเป็นการรักษาฝ้าแบบธรรมชาติที่เห็นผลลัพธ์เช่นเดียวกัน โดยคุณสามารถใช้พืชผักและผลไม้ในตู้เย็น เช่น การใช้หัวไชเท้าหรือมะละกอที่มีสารออกฤทธิ์ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว มาบดให้ละเอียดและผสมว่านหางจระเข้หรือน้ำผึ้ง จากนั้นพอกหน้าทิ้งไว้ไม่เกิน 15 นาที แล้วล้างออก โดยทำเป็นประจำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยรักษาฝ้าและทำให้ฝ้าบนใบหน้าจางลงได้ แต่วิธีนี้อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวในบางราย

ระวัง! รักษาฝ้าผิดวิธี เสี่ยงหน้าพังได้

หลังจากที่เราทราบกันไปแล้วว่า หน้าเป็นฝ้าต้องรักษาอย่างไร? ซึ่งวิธีที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าใครเผลอเชื่อคำโฆษณาและรักษาฝ้าด้วยการใช้ยาทาฝ้าปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองจากแพทย์ผิวหนัง อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้และหน้าพังก็เป็นได้

การรักษาฝ้า กระ โดยซื้อยามาทาเองนั้นเสี่ยงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากอย. และมีการโฆษณาว่าสามารถรักษาฝ้า ลบรอยกระให้หายได้อย่างถาวร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะยารักษาฝ้าที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ที่เป็นสารเคมีอันตราย หากใช้ยาที่มีส่วนผสมนี้ในปริมาณมากอาจเสี่ยงต่อการเกิดฝ้าลึกและทำให้หน้าไวต่อแดด รวมถึงก่อให้เกิดสารเคมีตกค้างในเซลล์ผิวอีกด้วย

สรุป รักษาฝ้าอย่างไรถึงถูกวิธี

ปัญหาผิวหน้าเรื่องฝ้าหากจัดการอย่างถูกวิธี รอยดำบนผิวหน้าของคุณก็จะดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยการรักษาฝ้านั้นสามารถรักษาได้ด้วยตัวเองและปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ซึ่งการรักษาฝ้าแต่ละแบบก็เหมาะสมกับฝ้าแต่ละชนิด หากใครต้องการบอกลาปัญหาฝ้าควรขอคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะ เพื่อที่คุณจะได้รับวิธีรักษาฝ้าอย่างตรงจุด 

ส่วนใครอยากกำลังมองหายาทาลดรอยฝ้า เราขอแนะนำครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้นจาก Romrawin Cosmetics ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ จัดการฝ้าแดดและจุดหมองคล้ำถึงต้นตอด้วย Absolute Light Cream และ Intensive Serum เซรั่มเนื้อบางเบาอุดมไปด้วย Polyhydroxy Acid (PHA) และ Vitamin B3 ที่ช่วยชะลอการสร้างเม็ดสี และผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำให้กลับมาสดใส

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาฝ้า

การรักษาฝ้าวิธีไหนดีที่สุด?

การรักษาฝ้าและป้องกันผิวไม่ให้เกิดฝ้าที่ดีที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงแสงแดด เนื่องจากปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้านั่นก็คือการทำงานของเม็ดสีเมลานินที่มากขึ้นจากแสงรังสียูวี (UV) และแสงสีฟ้า ดังนั้น การทาครีมกันแดด รวมถึงหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงจึงเป็นวิธีรักษาฝ้าที่มีประสิทธิภาพที่สุด

ทำไมรักษาฝ้าวิธีไหนก็ไม่หาย?

การรักษาฝ้าด้วยวิธีไหนก็ไม่หาย เป็นเพราะแสงแดดนั้นเข้าไปทำลายชั้นผิวจนผิวฟื้นฟูตนเองได้ไม่ทัน การรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ จึงต้องใช้ระยะเวลานาน รวมถึงการดูแลผิวต้องมีการใส่ใจเพิ่มมากขึ้นทั้งจากภายในและภายนอก อย่างการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการทำหัตถการลดฝ้าร่วมด้วย ก็เป็นหนึ่งในวิธีรักษาฝ้าที่เห็นผลชัดเจนหากมีการทำอย่างต่อเนื่อง

กินอะไรรักษาฝ้าได้บ้าง?

อาหารที่ช่วยรักษาฝ้าและความหมองคล้ำบนใบหน้า ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มะเขือเทศ และผักใบเขียว เพราะอาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่จะทำหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสียูวี และกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ได้อีกด้วย

คนที่มีปัญหาฝ้า ควรหลีกเลี่ยงกินอะไร?

ผู้ที่อยู่ในช่วงรักษาฝ้าควรหลีกเลี่ยงของหวาน ของทอด หรืออาหารฟาสต์ฟูด รวมถึงอาหารที่มีไขมันมาก เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายเกิดอนุมูลอิสระที่ทำร้ายเซลล์ผิวหนัง และทำให้เราเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำตามมาได้

Romrawin Cosmetics ปรนนิบัติผิวให้สุขภาพดีด้วยเวชสำอาง ที่คิดค้นโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังกว่า 20 ปี
Shopping cart
Start typing to see products you are looking for.
Shop
0 Wishlist
0 items Cart
My account

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ตรงกับความสนใจของคุณ
    Cookies Details

บันทึกการตั้งค่า